วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สร้างสรรค์ยาทาเล็บด้วยตัวเองจาก Eye Shadow สีโปรด


รูปภาพจาก http://opi.com/

       หลายครั้งที่แจมหายาทาเล็บสีที่ชอบไม่ได้สักที แถมบางครั้งสีที่ถูกใจก็ราคาแพงจนเอื้อมไม่ถึง หรือบางครั้งอยากจะได้ยาทาเล็บที่มีสีเดียวกับสี Eye Shadow เวลาที่แจมแต่งหน้า ซึ่งมันยากมากๆที่จะหาสีที่ตรงกันได้ แต่ปัญหาเหล่านี้ก็หมดไป เมื่อแจมเห็นวิดีโอ Make Your Own Nail Polish! จากช่อง cutepolish ที่แจมได้แนะนำไปครั้งที่แล้ว แน่นอนว่าแจมไม่พลาดที่จะกดเข้าไปดูแล้วทำตามทันที อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น แถมหาได้ง่ายในบ้านของคุณสาวๆด้วยนะคะ เรามาดูสิ่งที่ต้องใช้กันเลยค่ะ




1. ยาทาเล็บแบบใส หรือ Top coat

2. Eye Shadow สีที่ชอบ (สามารถเลือกแบบที่หมดอายุแล้วก็ได้นะคะ จะได้ไม่รู้สึกเสียดาย Eye Shadow ที่เรายังใช้อยู่ แถมช่วยประหยัดอีกด้วยค่ะ)

3. ไม้จิ้มฟัน

4. กระดาษที่ม้วนเป็นกรวย


เริ่มทำกันเลย


1. เปิดฝาขวดยาทาเล็บ นำกระดาษที่ม้วนเป็นรูปกรวยเสียบลงไป



2. ใช้ไม้จิ้มฟัน ขูด Eye Shadow ให้เป็นผงใส่ลงไปในขวดยาทาเล็บแบบใส



3. ใช้ไม้จิ้มฟันอันเดิมคนให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที เพื่อให้ Eye Shadow ละลายเข้ากับยาทาเล็บแบบใส (หากสาวๆคนไหนมี Glitter หรือ กากเพชร สามารถใส่เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับยาทาเล็บของเราได้นะคะ เพียงแค่ใส่ลงไปในขวดยาทาเล็บแล้วใช้ไม้จิ้มฟันคนให้เข้ากันค่ะ)




        ความชัดของยาทาเล็บจะขึ้นอยู่กับรอบของการทาและความเข้มของ Eye Shadow นะคะ อย่างในรูปแจมทา 2 รอบค่ะ เสร็จแล้วค่ะ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่นี้สาวๆก็มียาทาเล็บสีที่สาวๆอยากได้ แถมยังประหยัดเงินในกระเป๋าสาวๆอีกด้วย เห็นมั้ยคะ ทำเองได้ง่ายจัง



วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทำเล็บเองได้ง่ายจัง


รูปจาก pinterest


เวลาเข้าร้านทำเล็บ แน่นอนว่าสาวๆต้องเสียเงินไม่ต่ำกว่า 500 บาท ยิ่งทำเล็บหลายขั้นตอนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเสียเงินมากขึ้น แต่ถ้าสาวๆสามารถทำเล็บได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆที่บ้าน รับรองได้เลยว่าสาวๆจะมีเงินเหลือเก็บไว้ทำสวยอย่างอื่นได้อีกเยอะขึ้นแน่ๆเลย




ตัวแจมเองเป็นคนที่ชอบทำเล็บมากๆ เปลี่ยนแบบเล็บแทบจะทุกอาทิตย์ ถ้าไปทำที่ร้านก็คงจะไม่ไหว แจมเลยเลือกศึกษาจากในเว็บต่างๆว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราทำเล็บได้ด้วยตัวเองแบบไม่ต้องเสียเงินมาก และแจมก็พบกับ cutepolish ช่องที่อยู่ใน youtube โดยเป็นช่องที่อัพโหลดวิดีโอการทำเล็บในรูปแบบต่างๆ มีทั้งแบบเริ่มต้นของคนที่เริ่มหัดทำเล็บด้วยตัวเอง ไปจนถึงรูปแบบที่ยากสำหรับคนที่ทำเล็บเองจนเก่งแล้ว




เมื่อสาวๆดูวิดีโอทำเล็บแบบต่างๆ แล้วไม่มีอุปกรณ์ทำเล็บ ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ แจมมีตัวอย่างของอุปกรณ์ที่สาวๆสามารถนำมาใช้ทำเล็บได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้หาได้ง่ายๆที่บ้านเราค่ะ

รูปจาก pinterest

อย่างแรกเลยก็คือ Dotting Tool หรือ อุปกรณ์ที่ใช้ทำจุดนั่นเองค่ะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำเล็บทั่วไป แต่ถ้าหากใครไม่อยากเสียเงินซื้อ แจมมีวิธีค่ะ ง่ายๆเลยแค่เพียงใช้กิ๊บดำ หรือ Bobby Pins ที่สาวๆใช้ติดผมมาใช้ หรือจะใช้ไม้จิ้มฟันได้เช่นกัน แค่นี้เราก็จะมี Dotting Tool เอาไว้ใช้ทำเล็บแล้วค่ะ



อย่างที่สอง เทปขุ่น อุปกรณ์ชิ้นนี้เราสามารถนำมาใช้ทำลวดลายต่างๆได้มากมายเลยค่ะ ทั้งแบบสามเหลี่ยม แบบรูปหัวใจ หรือแบบ French nail


อย่างที่สาม ฟองน้ำ เราสามารถใช้ฟองน้ำทำเล็บแบบ Ombre หรือแบบไล่สีนั่นเอง
  


การทำเล็บด้วยตัวเองไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่อุปกรณ์ไม่กี่อย่างเท่านั้นเอง สาวๆลองหาอุปกรณ์แล้วเปิดแบบเล็บที่ถูกใจลองทำตามดูนะคะ แค่นี้การทำเล็บก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปค่ะ




วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

มาอบไอน้ำผมด้วยตัวเองกันเถอะ!



การดูแลเส้นผมเป็นสิ่งหนึ่งที่สาวๆให้ความสำคัญ ยิ่งในหน้าร้อนแบบนี้แล้ว ยิ่งต้องดูแลเส้นผมเป็นพิเศษ เพราะว่าเวลาที่เส้นผมเราโดนแดด รังสียูวีเอ และยูวีบี จะเข้าทำร้ายเส้นผมเรา ทำให้ผมเปราะบางดูแห้งเสีย ซึ่งความชื้นของอากาศเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลทำให้สภาพเส้นผมเราสูญเสียสารอาหารที่อยู่ในเส้นผม เนื่องจากเกล็ดผมชั้นนอกถูกทำร้ายนั่นเอง



วันนี้เรามาคุยกับพลอย นิภาพร สาวผมสวยวัย 22 ปี มาดูกันว่าเธอมีวิธีการดูแลเส้นผมไม่ให้เสียในหน้าร้อนนี้อย่างไรบ้าง

Q: ปกติดูแลเส้นผมอย่างไรบ้างคะ?

ปกติจะสระผมทุกวัน ชอบสระผมทุกวันให้ผมสะอาดอยู่ตลอดเวลา เวลาเลือกผลิตภัณฑ์ก็จะเลือกตามสภาพเส้นผมค่ะ จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเส้นผมมากที่สุด และจะใช้ครีมนวดผมหลังสระผมทุกครั้งค่ะ เพื่อให้เส้นผมไม่แห้ง ส่วนการทำให้ผมแห้ง พลอยไม่ใช้เครื่องเป่าผมค่ะ จะปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติ เพราะลมร้อนจะยิ่งทำให้ผมแห้งเสียค่ะ และสิ่งสำคัญที่สุดก็จะเลี่ยงไม่ให้ผมโดดแดดค่ะ เพราะแดดทำให้ผมแห้งเสีย


Q: ถ้าหากจำเป็นจะต้องออกแดดสาวพลอยมีวิธีป้องกันเส้นผมจากแสงแดดอย่างไรบ้างคะ?
พลอยเป็นคนไม่ค่อยพกร่มค่ะ แต่จะใช้เสื้อกันหนาวที่พกติดตัวกันแดดแทน บางครั้งก็จะเกล้าผมเพื่อไม่ให้ผมโดนแดดมากจนเกินไปค่ะ

Q: เมื่อเส้นผมโดนแดดเป็นเวลานานๆ สาวพลอยมีวิธีฟื้นฟูเส้นผมอย่างไรบ้าง?

เวลาผมโดนแดดนานๆ หรือทุกวัน ผมจะแห้งเสียค่ะ พลอยเลยเลือกที่จะอบไอน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมค่ะ แต่ว่าพลอยจะทำเองที่บ้านนะคะ เนื่องจากว่าไม่ค่อยมีเวลาไปทำที่ร้านเท่าไหร่




Q: อบไอน้ำด้วยตัวเองหรอคะ ไม่ทราบว่ามีวิธีทำอย่างไรบ้างคะ?
ขั้นตอนแรกเลยนะคะ สระผมด้วยแชมพูที่เหมาะกับเส้นผม แต่ไม่ต้องตามด้วยครีมนวดผมนะคะ จากนั้นซับผมให้พอหมาด แบ่งผมออกเป็นช่อๆ ใส่ครีมหมักผมหรือ Treatment ตามช่อที่แบ่งไว้ นวดเส้นผมเบาๆเพื่อให้ครีมซึมเข้าไปในผมค่ะ หลังจากทำแบบนี้ทั่วศีรษะแล้วให้นำผ้าขนหนู พับเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้านำมาพันรอบศีรษะ โดยปิดช่วงหน้าผากและหูไว้ จากนั้นก็อบผมด้วยหมวกอบไอน้ำ  แต่ถ้าใครไม่มีหมวกอบไอน้ำสามารถใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดพอหมาด นำไปนึ่งให้ร้อน หรือจะชุบน้ำร้อนแล้วรอให้อุ่นก็ได้เช่นกันค่ะ เอาผ้าที่ได้มาคลุมศีรษะ อบทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที พอครบเวลาก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ พลอยจะอบไอน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เป็นการเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมค่ะ


เราได้รู้เคล็ดลับการดูแลเส้นผมในหน้าร้อนจากสาวพลอยกันไปแล้ว สาวๆอย่าลืมลองทำตามกันดูนะคะ เพื่อเส้นผมของเราจะได้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น รับรองเลยว่าสาวๆทุกคนจะต้องมีผมที่สวยในหน้าร้อนนี้แน่ๆค่ะ 
นอกจากยังจะได้ดูแลผมด้วยตัวเองกันแล้ว การอบไอน้ำผมด้วยตัวเองนั้นยังจะช่วยให้เราประหยัดเงินกันอีกด้วยนะคะ เพราะการเข้าร้านทำผมในแต่ละครั้งนั้นทำให้สาวๆเสียเงินไม่น้อยเลย ต้องขอขอบคุณสาวพลอยสำหรับเคล็ดลับดีๆแบบนี้มากๆเลยนะคะ








วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

10 เคล็ด(ไม่)ลับที่จะทำให้คุณทำสีผมได้เองที่บ้าน








      สาวๆหลายคน เชื่อได้ว่าเมื่อหน้าร้อนมาถึงแบบนี้ต้องพร้อมใจกันเดินเข้าร้านทำผม เพื่อทำสีผมต้อนรับแดดอย่างแน่นอน แต่บางครั้งการเข้าร้านทำผมเพื่อทำสีผมก็ไม่เป็นไปดั่งใจ เพราะบางครั้งสีที่เราอยากได้กลับไม่ใช่สีที่เราได้ ไม่เข้มเกินไป ก็อ่อนเกินไป หรือบางครั้งสีที่ทำก็ไม่ติดกลายเป็นสีผมด่างๆไป สาวๆบางคนก็เลยเลือกการแก้ปัญหานี้ด้วยการทำสีผมเอง ซึ่งในวันนี้แจมก็มีเคล็ดลับในการทำสีผมด้วยตัวเองมาฝากสาวๆกันด้วย





1. เลือกสีที่เหมาะสมที่สุด
หากคุณเป็นสาวผิวขาวอมเหลือง ซึ่งสีผิวลักษณะนี้จะทำให้ใบหน้าคุณดูซีดเซียว ไม่ค่อยสดใส ควรเลือกทำสีผมที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้ใบหน้า คือ สีน้ำตาลแดงประกายม่วง สีประกายม่วงเหลือบแดง หากคุณเป็นสาวผิวขาวอมชมพู สีผิวที่มีสุขภาพดีมาก ๆ จะทำผมสีอะไรก็สวย แต่สีผมที่เหมาะที่สุดคือ สีบลอนด์ประกายหม่น หรือสีโทนน้ำตาล หากคุณเป็นสาวผิวสองสี หรือผิวสีน้ำผึ้ง สีผมที่เหมาะกับคุณคือ สีน้ำตาลอ่อน หรือโทนสีที่มีประกายทองเหลือบ ๆ เพราะจะทำให้ใบหน้าคุณดูสว่างและดูเซ็กซี่สุด ๆ ไปเลย หากคุณเป็นสาวผิวคล้ำ เนื่องจากสีผิวที่ค่อนข้างเข้ม จึงไม่ควรทำสีสว่าง เพราะจะทำให้หน้าดูคล้ากว่าเดิม ควรจะเลือกสีน้ำตาลช็อกโกแลต สีน้ำตาลธรรมชาติ เพื่อช่วยขับผิวให้ดูสว่างมากยิ่งขึ้น



2. อย่าหลงเชื่อภาพนางแบบบนกล่อง
บางครั้งพื้นสีผมของนางแบบอาจไม่ได้มีสีเดียวกับเรา แนะนำให้ดูตารางการเปรียบเทียบเฉดสีผมก่อนและหลังทำที่มีอยู่บนหลังกล่องก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะพื้นสีผมของนางแบบนั้นไม่ได้มีสีเดียวกันกับเรา สีที่ได้จึงขึ้นอยู่กับพื้นสีผมและสภาพผมของแต่ละคนนั่นเอง


3. เช็คสภาพผมตัวเองก่อนทำ
สภาพเส้นผมของ แต่ละคนไม่เหมือนกัน สาวๆที่มีผมแห้งอาจจะต้องใช้เวลาในการย้อมนานกว่าสาวๆที่มีผมนุ่มลื่น แต่ถ้าสาวๆคนไหนที่มีผมเสียมากแนะนำให้เว้นระยะการทำสีผมสักพักหนึ่ง เพื่อสุขภาพผมที่ดีนะคะ




4. 2 กล่องชัวร์กว่ากล่องเดียว
สำหรับสาวที่มีผมหนาหรือผมยาวเกินกลางหลัง แนะนำว่าควรใช้ยาย้อมผม 2 กล่องขึ้นไป เพราะหากยาย้อมผมหมดระหว่างการทำสีผมคงจะลำบากน่าดู อาจจะทำให้สีผมที่ทำไม่สม่ำเสมอกัน ดูไม่สวยแน่ๆค่ะ แต่ถ้าสาวๆที่ผมไม่หนา


5. ดูชนิดของยาย้อมผมให้ดีก่อนซื้อ
ยาย้อมผมแต่ละชนิดก็ย่อมให้สีที่แตกต่างกันไป ถ้าเป็นยาย้อมผมชนิดโฟมก็จะให้เฉดสีที่สว่างกว่า ทำให้เส้นผมเป็นประกายมากกว่ายาย้อมผมชนิดครีมที่จะให้โทนสีที่เข้มมากกว่าและมีเม็ดสีที่ติดทนมากกว่า




6. หลังย้อมให้หมักผมด้วยครีมนวด
หลังจากที่ย้อมและสระผมเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้บำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมค่ะ โดยใช้ติดกันเป็นเวลา 1-2 วัน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ซึ่งจะช่วยให้สีผมติดทนมากขึ้น หรือสาวๆท่านใดจะใช้เป็น Treatment ก็ได้ค่ะ จะช่วยให้ผมเรามีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น


7. อย่าสระผมก่อนย้อมผม
ทิ้งผมไว้โดยไม่ต้องสระผมอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนย้อมผม เพราะน้ำมันจากเส้นผมจะช่วยป้องกันการแห้งเสียของเส้นผมจากสารเคมีในยาย้อมผมได้ดีค่ะ





8. ปิโตรเลี่ยมเจลตัวช่วยชั้นยอด
ก่อนย้อมผมแนะนำให้ป้ายปิโตรเลี่ยมเจลไว้ตามขอบเส้นผม ใบหู และหลังคอ เพื่อป้องกันยาย้อมผมซึมลงบนผิว เพราะถ้ายาย้อมผมซึมลงผิวแล้วนั้นต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะล้างยาย้อมผมออกจากผิวของเรา


9. ทำทีละส่วน อย่าทำทีเดียวทั้งศีรษะ
แบ่งผมออกเป็น 4-5 ส่วน (ขึ้นอยู่กับความหนาของผม) ค่อยๆลงยาย้อมผมทีละช่อจนครบทั้งศีรษะ ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้สีติดได้ทั่วถึงกว่าการชโลมทีเดียวทั้งศีรษะ


10. ทดสอบการแพ้ (ข้อนี้สำคัญที่สุด)
สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องทำก่อนจะทำสีผมก็คือการทดสอบการแพ้ จะต้องทำก่อนทำสีผม 48 ชั่วโมง โดยยาย้อมผมทุกยี่ห้อมีใบคำแนะนำและข้อควรระวังอยู่กล่อง สาวๆทุกคนอย่าลืมอ่านกันนะคะ
วิธีทดสอบการแพ้ 48 ชม. ก่อนทำสีผม

1. ใช้ Cotton butt จุ่มน้ำยาเปลี่ยนสีผม 1 เท่า ใช้Cotton buttอันใหม่ จุ่มกับดีเวลลอปเปอร์ 2 เท่า ลงในถาดผสมน้ำยา แล้วผสมให้เข้ากัน
2. ใช้ Cotton butt ทาน้ำยาบางๆลงบนท้องแขน (อย่าให้ท้องแขนเปียกน้ำ ขณะทดสอบ)
3. อย่าแตะต้องบริเวณที่ทดสอบ 48 ชม.
4. หลังจากทิ้งไว้ 30 นาที เช็คบริเวณที่ทดสอบ และเช็คอีกครั้ง หลัง 48 ชม.


หลังจากทดสอบหากเกิดผื่น บวมแดง ระคายเคือง หรือผิวหนังเกิดอาการผิดปกติใดๆ ให้หยุดการทดสอบทันที ล้างยาย้อมผมออกให้หมด และห้ามใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมยี่ห้อนั้นเด็ดขาด




หากคุณสาวๆทำตาม 10 ข้อนี้รับรองว่าการทำสีผมด้วยตัวเองจะไม่ยากอีกต่อไป ลองทำกันดูนะคะ









ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

สวยได้ไม่ซ้ำ กับ "ผมสวย เปลี่ยนสไตล์ เสกสวยได้ไม่ซ้ำวัน"



        ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 13 หรือ Bangkok international Book Fair 2015 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึงวันที่ 6 เมษายน 2558    เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


ภาพบรรยากาศงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43

        ในครั้งนี้มีสำนักพิมพ์กว่า 420 แห่ง บูธจัดจำหน่ายหนังสือกว่า 950 บูธ มีหนังสือหลากหลายประเภทให้เลือกสรร ในงานนี้ยังมีนิทรรศการเพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวดและกิจกรรมอีกมากมายให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้เลือกทำกัน




          ส่วนใครที่ยังไม่มีตัวเลือกสำหรับงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้โดยเฉพาะสาวๆ ขอแนะนำ “ผมสวยเปลี่ยนสไตล์เสกสวยได้ไม่ซ้ำวัน” โดยกองบรรณาธิการนิตยสาร lemonade ในสำนักพิมพ์ STEP หนังสือที่จะทำให้คุณสาวๆเสกผมสวยแบบไม่ต้องเข้าร้านเสียเงินอีกต่อไป หนังสือเล่มนี้จะบอกวิธีการจัดแต่งทรงผมสุดเก๋ให้กับคุณสาวๆถึง 30 ทรงด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำในการจัดแต่งทรงผมเพื่อให้เข้ากับรูปหน้า และการดูแลเส้นผมทั้งก่อน-หลังการจัดแต่งทรงอีกด้วย




          สำหรับคุณสาวๆท่านใดกลัวจะทำตามไม่ได้หรือกลัวจะไม่สวยตามแบบในหนังสือก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะในหนังสือมีรูปภาพประกอบในแต่ละขั้นตอนเพื่อบอกถึงวิธีการทำต่างๆ อย่างละเอียด

            ท่านใดที่สนใจสามารถหาซื้อ “ผมสวยเปลี่ยนสไตล์เสกสวยได้ไม่ซ้ำวัน” ได้ที่บูธของ  SE-ED โซนพลาซ่า v12 ในงานสัปดาห์หนังสือ ครั้งที่ 43 ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึงวันที่  6 เมษายน 2558 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หรือหากท่านใดที่พลาดไปก็ไม่ต้องเสียดายสามารถหาซื้อ “ผมสวยเปลี่ยนสไตล์เสกสวยได้ไม่ซ้ำวัน” ได้แล้วตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป




ขอขอบคุณภาพบรรยากาศงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43
จากhttp://www.thailandexhibition.com/Report/1410

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

มหกรรมงาน Asia Beauty & Cosmetic Expo 2015 สุดยิ่งใหญ่

มหกรรมงาน Expo ความงามและสุขภาพสุดยิ่งใหญ่แห่งปี "Asia Beauty & Cosmetic Expo 2015"     

 
           บริษัท ไอริช ทริลเลี่ยนจำกัด งัดกลยุทธ์ทางการตลาด “ สร้าง-เพิ่ม-ยกระดับ” เปิดม่านมหกรรมงาน Asia Beauty & Cosmetic Expo 2015 สุดยิ่งใหญ่ เน้นแนวคิดมหกรรมที่ครอบคลุมทุกมิติทางด้านสุขภาพและความงาม ยกระดับสากลทั่วเอเชีย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึงวันที่ 3 พค. 2558 ณ บริเวณ Hall 7-8 เมืองทองธานี พร้อมจับมือภาครัฐและเอกชน อาทิ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB, กระทรวงสาธารณสุข, นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย และนายกสมาคมผู้ประกอบการสปาไทย เป็นต้น โดยเน้นการสัมมนาเพิ่มพูนความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปตลอด 4 วัน ในงานจะมีเหล่าดาราและคนดังเข้าร่วมจำหน่ายสินค้า คาดเงินสะพัดกว่า 50 ล้านบาท ชี้ปี2558 Q1สินค้ากลุ่มความงามและสุขภาพขยับเติบโตขึ้น 10%


           นายวัชรพงศ์ รามสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอริช ทริลเลี่ยน จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับการจัดมหกรรมความงามด้านสุขภาพและความงามระดับสากล ภายใต้ชื่องาน Asia Beauty & Cosmetic Expo 2015 ภายใต้แนวคิด Beauty of Asian Culture knowledge นับเป็นงานที่ครอบคลุมด้านสุขภาพและความงามโดยเน้นตั้งแต่สุขอนามัยพื้นฐานไปจนถึงการป้องกันรักษากับมืออาชีพจากสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอันเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพการโภชนาการออกกำลังกายและดูแลผิวพรรณควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จะเปลี่ยนผู้เข้าชมงานให้เป็นคนใหม่โดยสามารถเลือกสรรค์ความงามแบบครบวงจรทั่วเอเชีย"
           ส่วนในด้านกลยุทธ์ นายวัชรพลกล่าวว่า "ด้านกลยุทธ์การตลาดสำหรับงานมหกรรมนี้คือ “สร้าง-เพิ่ม-ยกระดับ” หมายถึง สร้างความแตกต่างของงานแสดงสินค้า และ สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ รวมไปถึง การสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและบริการในงาน เพิ่มศักยภาพสินค้าของผู้ประกอบการให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นและเพิ่มการต่อรองทางการค้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ยกระดับงานแสดงสินค้าความงามในประเทศไทย โดยได้จับมือกับพันธมิตรสร้างความน่าเชื่อถือ อาทิ ตัวแทนจาก TCEB, ตัวแทนจาก กรมสนับสนุนการแพทย์, กระทรวงสาธารณสุข,  นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย และ นายกสมาคมผู้ประกอบการสปาไทย เป็นต้น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไป เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าและประชาชนที่ รักสุขภาพ ความงามทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทางด้านสุขภาพ ,บริษัทชั้นนำต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพและความงาม ,กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และเจ้าของธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ในการจัดงานตั้งแต่ 30 เมษายนจนถึง 3 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ณ บริเวณ Hall 7-8 เมืองทองธานี ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการจัดงานครั้งนี้คือ สินค้าดี ราคาถูก และสินค้าได้มาตรฐานสากล คาดว่ายอดผู้เข้างานเฉลี่ยประมาณ 200,000 รายต่อวัน ยอดการซื้อสินค้าจากงานประมาณ 30 ล้านบาท โดยคาดว่าเงินจะสะพัดจากการจัดงานครั้งนี้กว่า 50 ล้านบาท"


           นายณฐกันต์ คงประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอริช ทริลเลี่ยน จำกัด กล่าวเสริมว่า “จุดประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมธุรกิจต่อยอดทางด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ซึ่งจะเพิ่มพูนยอดขายและสร้างการจดจำตราสินค้าและบริการของผู้เข้าร่วมงาน โดยเป็นตัวกลางในการสร้างโอกาสสำหรับสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามได้มีโอกาสพบกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ทั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางด้านสุขภาพและความงาม ให้ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง และเพื่อคืนกำไรให้กลับผู้เข้าชมงานในการเลือกซื้อสินค้าดี มีมาตรฐาน ในราคาพิเศษ
            อีกทั้งผู้ประกอบการร่วมงานจะได้รับโดยแตกต่างจากการจัดมหกรรมอื่นๆ โดยสามารถเพิ่มยอดขายให้กับตลาดของสินค้าสู่สายตาผู้บริโภคเป้าหมายโดยตรง สร้างโอกาสในการแข่งขันทางการตลาด ซึ่งสร้างทัศนะคติที่ดีระหว่างลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดตลาดใหม่ให้กับสินค้าและบริการ และได้สร้างโอกาสในการหาตัวแทนจำหน่ายสินค้าและบริการอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
           อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2558 สำหรับธุรกิจความงามไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเครื่องสำอางในภูมิภาคอาเซียนได้ด้วยตัวเลขการส่งออกเครื่องสำอางไทยสูงที่สุดในอาเซียน คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี เติบโตกว่า 10% โดยธุรกิจความงามระดับโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.7% มูลค่าการค้าปลีกขยับเพิ่มขึ้นมากถึง 2.1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ คาดปี 2017 มูลค่าเติบโตกว่า 2.65 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ"


           นายณฐกันต์ยังกล่าวต่อว่า “ สำหรับตลาดความงามไทยโต 3%ต่อปี คาดในปี 2017จะมีมูลค่าสูงกว่า 20,000 ล้านบาท ฉะนั้นประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 17 ในการผลิตเครื่องสำอางค์ของโลก อุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 10-20 % ต่อปี มูลค่าการส่งออกเครื่องสำอางค์เพื่อการแต่งหน้า คิดเป็น 1.28% ของมูลค่าการส่งออกโลก อีกทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีและส่วนผสมเครื่องสำอางค์อย่างมากในเอเชียต่อจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญของการขยายธุรกิจและต่อยอดธุรกิจและเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญของสินค้าความงามและสุขภาพแนวโน้มของธุรกิจความงามในปี 2558 ในไตรมาสแรกคิดว่าน่าจะมีอัตราเฉลี่ยของตลาดโตขึ้น 10 % "


           หากผู้ประกอบการด้านความงามและสุขภาพ หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจในเรื่องของความงามและสุขภาพ สามารถเยี่ยมชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2558 ที่ Hall 7-8 อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี


ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://zeekway.com/asia-beauty-cosmetic-expo-2015/