สาวๆหลายคน
เชื่อได้ว่าเมื่อหน้าร้อนมาถึงแบบนี้ต้องพร้อมใจกันเดินเข้าร้านทำผม เพื่อทำสีผมต้อนรับแดดอย่างแน่นอน
แต่บางครั้งการเข้าร้านทำผมเพื่อทำสีผมก็ไม่เป็นไปดั่งใจ
เพราะบางครั้งสีที่เราอยากได้กลับไม่ใช่สีที่เราได้ ไม่เข้มเกินไป ก็อ่อนเกินไป
หรือบางครั้งสีที่ทำก็ไม่ติดกลายเป็นสีผมด่างๆไป
สาวๆบางคนก็เลยเลือกการแก้ปัญหานี้ด้วยการทำสีผมเอง
ซึ่งในวันนี้แจมก็มีเคล็ดลับในการทำสีผมด้วยตัวเองมาฝากสาวๆกันด้วย
1. เลือกสีที่เหมาะสมที่สุด
หากคุณเป็นสาวผิวขาวอมเหลือง
ซึ่งสีผิวลักษณะนี้จะทำให้ใบหน้าคุณดูซีดเซียว ไม่ค่อยสดใส
ควรเลือกทำสีผมที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้ใบหน้า คือ สีน้ำตาลแดงประกายม่วง
สีประกายม่วงเหลือบแดง หากคุณเป็นสาวผิวขาวอมชมพู สีผิวที่มีสุขภาพดีมาก ๆ
จะทำผมสีอะไรก็สวย แต่สีผมที่เหมาะที่สุดคือ สีบลอนด์ประกายหม่น หรือสีโทนน้ำตาล หากคุณเป็นสาวผิวสองสี
หรือผิวสีน้ำผึ้ง สีผมที่เหมาะกับคุณคือ สีน้ำตาลอ่อน หรือโทนสีที่มีประกายทองเหลือบ
ๆ เพราะจะทำให้ใบหน้าคุณดูสว่างและดูเซ็กซี่สุด ๆ ไปเลย หากคุณเป็นสาวผิวคล้ำ
เนื่องจากสีผิวที่ค่อนข้างเข้ม จึงไม่ควรทำสีสว่าง เพราะจะทำให้หน้าดูคล้ากว่าเดิม
ควรจะเลือกสีน้ำตาลช็อกโกแลต สีน้ำตาลธรรมชาติ เพื่อช่วยขับผิวให้ดูสว่างมากยิ่งขึ้น
2. อย่าหลงเชื่อภาพนางแบบบนกล่อง
บางครั้งพื้นสีผมของนางแบบอาจไม่ได้มีสีเดียวกับเรา
แนะนำให้ดูตารางการเปรียบเทียบเฉดสีผมก่อนและหลังทำที่มีอยู่บนหลังกล่องก่อนตัดสินใจซื้อ
เพราะพื้นสีผมของนางแบบนั้นไม่ได้มีสีเดียวกันกับเรา สีที่ได้จึงขึ้นอยู่กับพื้นสีผมและสภาพผมของแต่ละคนนั่นเอง
3. เช็คสภาพผมตัวเองก่อนทำ
สภาพเส้นผมของ แต่ละคนไม่เหมือนกัน สาวๆที่มีผมแห้งอาจจะต้องใช้เวลาในการย้อมนานกว่าสาวๆที่มีผมนุ่มลื่น
แต่ถ้าสาวๆคนไหนที่มีผมเสียมากแนะนำให้เว้นระยะการทำสีผมสักพักหนึ่ง เพื่อสุขภาพผมที่ดีนะคะ
4. 2 กล่องชัวร์กว่ากล่องเดียว
สำหรับสาวที่มีผมหนาหรือผมยาวเกินกลางหลัง
แนะนำว่าควรใช้ยาย้อมผม 2 กล่องขึ้นไป เพราะหากยาย้อมผมหมดระหว่างการทำสีผมคงจะลำบากน่าดู
อาจจะทำให้สีผมที่ทำไม่สม่ำเสมอกัน ดูไม่สวยแน่ๆค่ะ แต่ถ้าสาวๆที่ผมไม่หนา
5. ดูชนิดของยาย้อมผมให้ดีก่อนซื้อ
ยาย้อมผมแต่ละชนิดก็ย่อมให้สีที่แตกต่างกันไป
ถ้าเป็นยาย้อมผมชนิดโฟมก็จะให้เฉดสีที่สว่างกว่า
ทำให้เส้นผมเป็นประกายมากกว่ายาย้อมผมชนิดครีมที่จะให้โทนสีที่เข้มมากกว่าและมีเม็ดสีที่ติดทนมากกว่า
6. หลังย้อมให้หมักผมด้วยครีมนวด
หลังจากที่ย้อมและสระผมเรียบร้อยแล้ว
แนะนำให้บำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมค่ะ โดยใช้ติดกันเป็นเวลา 1-2 วัน
เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ซึ่งจะช่วยให้สีผมติดทนมากขึ้น หรือสาวๆท่านใดจะใช้เป็น
Treatment
ก็ได้ค่ะ จะช่วยให้ผมเรามีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น
7. อย่าสระผมก่อนย้อมผม
ทิ้งผมไว้โดยไม่ต้องสระผมอย่างน้อย
24 ชั่วโมงก่อนย้อมผม เพราะน้ำมันจากเส้นผมจะช่วยป้องกันการแห้งเสียของเส้นผมจากสารเคมีในยาย้อมผมได้ดีค่ะ
8. ปิโตรเลี่ยมเจลตัวช่วยชั้นยอด
ก่อนย้อมผมแนะนำให้ป้ายปิโตรเลี่ยมเจลไว้ตามขอบเส้นผม
ใบหู และหลังคอ เพื่อป้องกันยาย้อมผมซึมลงบนผิว เพราะถ้ายาย้อมผมซึมลงผิวแล้วนั้นต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะล้างยาย้อมผมออกจากผิวของเรา
9. ทำทีละส่วน อย่าทำทีเดียวทั้งศีรษะ
แบ่งผมออกเป็น 4-5 ส่วน (ขึ้นอยู่กับความหนาของผม)
ค่อยๆลงยาย้อมผมทีละช่อจนครบทั้งศีรษะ ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้สีติดได้ทั่วถึงกว่าการชโลมทีเดียวทั้งศีรษะ
10. ทดสอบการแพ้ (ข้อนี้สำคัญที่สุด)
สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องทำก่อนจะทำสีผมก็คือการทดสอบการแพ้
จะต้องทำก่อนทำสีผม 48 ชั่วโมง
โดยยาย้อมผมทุกยี่ห้อมีใบคำแนะนำและข้อควรระวังอยู่กล่อง
สาวๆทุกคนอย่าลืมอ่านกันนะคะ
วิธีทดสอบการแพ้ 48
ชม. ก่อนทำสีผม
1. ใช้ Cotton butt จุ่มน้ำยาเปลี่ยนสีผม 1 เท่า ใช้Cotton buttอันใหม่ จุ่มกับดีเวลลอปเปอร์ 2 เท่า ลงในถาดผสมน้ำยา แล้วผสมให้เข้ากัน
2. ใช้ Cotton butt ทาน้ำยาบางๆลงบนท้องแขน
(อย่าให้ท้องแขนเปียกน้ำ ขณะทดสอบ)
3. อย่าแตะต้องบริเวณที่ทดสอบ 48 ชม.
4. หลังจากทิ้งไว้ 30 นาที
เช็คบริเวณที่ทดสอบ และเช็คอีกครั้ง หลัง 48 ชม.
หลังจากทดสอบหากเกิดผื่น บวมแดง
ระคายเคือง หรือผิวหนังเกิดอาการผิดปกติใดๆ ให้หยุดการทดสอบทันที
ล้างยาย้อมผมออกให้หมด และห้ามใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมยี่ห้อนั้นเด็ดขาด
หากคุณสาวๆทำตาม 10 ข้อนี้รับรองว่าการทำสีผมด้วยตัวเองจะไม่ยากอีกต่อไป
ลองทำกันดูนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น